2554-09-19

[Thai Trans] A Journey With Kim HyunJoong From Incheon Airport to Shenzhen (by 橙子)


Credit: 橙子 @ Hyunbar
Chinese to English translation: www.i-kpoplovers.blogspot.com
English to Thai Translation: @HeneciaThailand | dolliac.tumblr.com
Photo credit as tagged on pix
Please leave the credits remain intact when repost.  TQ! :)
          ก่อนจะเริ่มอ่านก่อน โปรดอ่านโน้ตตรงนี้ก่อนนะคะ
1. คนเขียนไม่ได้ละเมิดความเป็นส่วนตัวของฮยอนจุงแต่อย่างใด
2. คนเขียนเคารพความเป็นส่วนตัวและสิทธิของฮยอนจุง ทุกคนคงจะเห็นได้เมื่ออ่านเรื่องนี้จบแล้ว
3. คนเขียนรักษาระยะห่างจากฮยอนจุงเพื่อจะไม่ไปรบกวนและละเมิดสิทธิส่วนตัวของเขา
4. คนเขียนไม่ได้พยายามด้วยววิธีใดๆก็ตามที่จะเรียกร้องความสนใจจากฮยอนจุง
1. She did not intrude Kim Hyun Joong’s privacy or personal time/space
2. She respects Kim Hyun Joong’s privacy and rights, as you can see in her fan account later.
3. She maintained a suitable distance between herself & Kim Hyun Joong so she would not intrude Kim Hyun Joong’s privacy. 
4. She, by no any intentions or means, tries to get Kim Hyun Joong’s attention or anything

KHJ bound to Shenzhen

การเดินทางร่วมกับคิมฮยอนจุงจากสนามบินอินชอนสู่เซินเจิ้น โดย 橙子

แม้ว่าฉันจะอยู่ที่เกาหลี แต่ในฐานะที่เป็นแฟนสายเลือดจีนของฮยอนจุง ฉันแอบหวังเสมอว่าโอปป้าจะมาจัดกิจกรรมที่เมืองจีน พอฉันได้ข่าวว่างานที่เมืองจีนถูกยกเลิก ฉันก็อกหักไปเลยล่ะ แต่พอฉันเห็นข่าวว่าฮยอนจุงจะมาเล่นคอนเสิร์ตที่เซินเจิ้น ฉันก็ลังเลยอยู่พอสมควรเพราะตัวเองก็อยากไปดูเขาตอนเอเชียทัวร์ด้วย แต่ตัวฉันเองจะมีสอบวันที่ 18 ก.ย. นี้ และตั้งแต่วันที่ 19 ไปก็ต้องสอบไล่ต่ออีกสี่วัน ฉันลังเลอยู่นาน ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจว่าตัวเองคงไม่สามารถตามไปดูเขาที่เซินเจิ้นได้แน่
แต่พอฉันเห็นโอปป้าเดินขากะเผลกไปมาในสนามบอลเมื่อวันที่ 10 ก.ย. ใจมันก็เจ็บจี๊ด ฉันพูดกับดันดัน (เพื่อนของคนเขียน)ว่า ฉันจะไปเซินเจิ้น!” หลายครั้งในชีวิตที่เราต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเลือกและตัดสินใจ และภายในเสี้ยวเวลาเดียวเท่านั้นที่เราจะเห็นคำตอบที่ปรากฎขึ้น ฉะนั้น โอปป้า ฉันจะไปหานะ!

ในวันเดินทาง ฉันไม่มีกำลังจิตกำลังใจในการเรียนเลย แถมโดดเรียนไปสองคาบด้วย ฉันบอกพ่อแม่ว่าจะไปอ่านหนังสือเตรียมสอบที่ห้องสมุด ฉะนั้น ไม่ต้องโทรมา จากนั้นฉันก็กลับบ้านไปจัดกระเป๋า ป้ายที่ฉันเตรียมไว้ก็ดันใหญ่เกินไปที่จะยัดลงไปในกระเป๋าได้ ฉันเลยต้องตัดมันออกเป็นชิ้นๆ และใส่ลงกระเป๋าพร้อมข้าวของอื่นๆ จากนั้นก็ออกเดินทางไปสนามบินพร้อมเป้สะพายหลัง
ฉันอาจจะตื่นเต้นเกินไปหน่อย ดันดันกับฉันเลยออกไปเดินเล่นฆ่าเวลาก่อนจะเช็คอินเพื่อดูว่าที่เทอร์มินัลมีคนเยอะหรือไม่ และพวกเราก็ไม่แน่ใจว่าควรจะเข้าไปข้างในเลยหรืออยู่รอข้างนอนก่อน แต่บางทีฉันควรจะเข้าไปรอโอปป้าข้างในนะ ตอนนั้นเองที่ฉันเกิดความรู้สึกขึ้นมาว่าฉันไม่ควรจะไปเซินเจิ้น แต่พอวินาทีที่โอปป้าปรากฏตัว ความรู้สึกที่ถาโถมเมื่อสักครู่นั้นก็หายไปจนหมด โอปป้า เราบินไปเซินเจิ้นด้วยกันนะ~

เมื่อฉันเข้าไปอยู่ในเทอร์มินัลแล้ว คุณบอดี้การ์ดรูปหล่อก็บอกฉันว่าห้ามถ่ายรูป พอโอปป้ามาเช็คอิน โอปป้าก็หยุดรอให้บอดี้การ์ดคนอื่นๆ เข้ามาเช็คอินด้วย ฮยอนจุงถอดหมวกออก ผมดูยุ่งๆ แต่ก็ทำให้ฉันนึกถึงเขาตอนที่เล่นบอลอยู่ในสนาม ไม่ว่าจะสไตล์ไหน ฉันก็ชอบเขาเสมอ
หลังจากที่โอปป้าผ่านด่านตรวจเช็คคนเข้าเมืองขาออก เขาก็ยืนรอชิลๆ ฮยอนจุงหยิบหูฟังจากไอพอดมาใส่และเคาะนิ้วไปมาตามจังหวะเพลง โอปป้า ขอฟังเพลงที่กำลังฟังอยู่ด้วยจิ~ บรรดาแฟนๆ ที่รออยู่ที่ชั้นสองหยิบกล้องมารัวรูปโอปป้ากันใหญ่  ฮยอนจุงเดินเข้าไปในร้านหนังสือ และกลับออกมาทันทีภายใน 20 วิ…โอปป้า ไม่มีการ์ตูนเรื่องโปรดเหรอจ้ะ

ฉันต้องขอบอกก่อนว่า ฉันรักษาระยะห่างกับโอปป้าพอสมควร ตราบใดที่ฉันยังสามารถมองเห็นโอปป้า ฉันก็พอใจแล้ว ขณะที่เรากำลังรอรถไฟ (รถไฟโดยสารระหว่างเทอร์มินัล) โอปป้าก็ทำเนียนๆ แอบเต้นด้วย (ถ้าฉันจำไม่ผิด คิดว่าน่าจะเป็นท่าเต้นในเพลง Kiss Kiss นะ) โอปป้า นี่เธอจะทำให้ฉันต้องกรี๊ดกลางสนามบินนะเนี่ย ตอนอยู่ในรถไฟ โอปป้าหันหน้าออกทางประตู จนกระทั่งถึงตอนที่เราต้องลง ฮยอนจุงก็ยังหันไปทางประตูที่ไม่เปิดอยู่นั่นแล่ะ ต้องขอบคุณคุณบอดี้การ์ดสุดหล่อที่หันมาบอกโอปป้าว่าผิดทาง ฮยอนจุงจึงหันกลับมาและลงจากรถไฟไป โอปป้า ฉันรู้ว่าโอปป้าแค่เข้าใจผิดคิดว่าทางออกอยู่อีกประตูนึงใช่มั้ย

ที่เทอร์มินัลรอขึ้นเครื่อง โอปป้าเข้าไปในห้องวีไอพีพร้อมบอดี้การ์ดอีกสองคน แม้ฉันจะสามารถเข้าไปในนั้นได้ด้วยเหมือนกัน (เพราะชั้นของตั๋วเครื่องบิน) แต่ฉันคิดว่าน่าจะให้โอปป้ามีเวลาส่วนตัวบ้าง ถ้าฉันตามเข้าไปใกล้เกินไป เขาอาจจะอึดอัด โอปป้าฉันจะรอโอปป้าอยู่ที่ทางรอขึ้นเครื่องชั้นประหยัดละกัน เราจะบินไปเซินเจิ้นด้วยกันทีหลังนะ ^^

เที่ยวบินดีเลย์นิดหน่อย เพราะทุกคนจะต้องเดินผ่านชั้นธุรกิจเพื่อจะขึ้นเครื่อง โอปป้าจึงรอจนกว่าทุกคนขึ้นเครื่องหมด เขาจึงค่อยขึ้นตามมา ฉันขึ้นเครื่องมาก่อนโอปป้า และรอเขาอยู่ที่ทางเดิน เขาเห็นฉันและผงกศีรษะให้ หัวใจฉันเต้นไม่เป็นจังหวะเลย ^^ โอปป้าไม่ได้ใช้ลิฟท์แต่เลือกที่จะใช้บันได้แทน เขาบอกกับผู้จัดการว่ามันเร็วกว่า แหม โอปป้า จะรีบไปไหนคะ

ตอนเครื่องกำลังจะขึ้น คุณบอดี้การ์ดก็เกือบจะไล่ให้ฉันไปนั่งตรงชั้นประหยัดเสียแล้ว แต่โชคดีที่เขาดูตั๋วของฉันด้วยเหมือนกัน ฉันนั่งที่แถวที่ 8 ตรงริมทางเดิน โอปป้า…ทำไมจะต้องมาเลือกนั่งหลังฉันติดริมหน้าต่างด้วยนะ…ฉันหันไปด้านหลังช้าๆเพื่อแอบมองเขา แล้วเขาก็มองฉันด้วย! โอปป้า ฉันรู้ว่าตาของคุณมันใหญ่มาก ไม่ต้องโชว์มานักหรอก! ฉันแค่จะแอบๆ มอง แล้วทำไมโอปป้าต้องมามองฉันด้วย! ก็โอเคนะถ้าคุณจะหัวเราะฉันที่ตอนนี้กำลังดูเหมือนคนบ้า ไม่ต้องเกรงใจหรอก หลังจากพยายามอยู่หลายครั้งที่จะหันไปมองฮยอนจุง ฉันก็เลิกล้มความพยายาม ฉันก็แค่แสร้งทำเป็นว่าไม่มีใครนั่งอยู่ข้างหลังฉัน เครื่องบินยังไม่ออกเลย แต่ใจบินไปไหนแล้วก็ไม่รู้

ฉันไม่แน่ใจว่าโอปป้าเหนื่อยแค่ไหน แต่เครื่องยังไม่ทันจะขึ้นดี เขาก็หลับเสียแล้ว เก้าอี้นั่งไม่ค่อยสบาย โอปป้าเลยต้องเอาหน้าแนบลงไปกับที่วางแขน โอปป้าคะ ขอบคุณนะที่ทำให้ฉันได้เห็นหน้าของคุณตอนหลับ โอปป้านอนหลับยังหล่อเลย เหมือนกับภาพหรือรูปที่เราเห็นในวิดีโอกัน ฉันไม่รู้จะแสดงออกยังไง แต่รู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ โอปป้านอนหลับนิ่งมาก ไม่ว่าเขาจะประกาศอะไรหรือแอร์จะเดินไปมาตรงทางเดิน ฮยอนจุงก็ยังหลับลึกอยู่ ฮืมมม ฉันไม่ได้ฝันไปนะ โอปป้ากำลังหลับลึกอยู่ตรงหน้าฉันจริงๆ

หลังจากนั้นสองชั่วโมง โอปป้าก็ตื่นและลุกขึ้นบิดขี้เกียจ ยกแขนทั้งสองข้างขึ้น หน้าเป็นรอยแดงๆ น่ารักที่สุดเลย! จากนั้นก็ถึงเวลากินข้าวเย็น ขณะกำลังรอให้แอร์นำอาหารมาเสิร์ฟ โอปป้าคุยเบาๆ อยู่กับผู้จัดการ เสียงนุ่มๆ เบาๆ แต่แมนมากๆ เขาหัวเราะไปด้วยเวลายิงมุกกัน…โอปป้า ปกติแล้วคุณคุยแบบนี้กับเพื่อนๆ ของคุณด้วยใช่มั้ย
แอร์ที่มาเสิร์ฟอาหารให้ก็คงจะเป็นแฟนของฮยอนจุงด้วยเหมือนกัน ดูจากภายนอกแล้ว เสน่ห์ของโอปป้านี่ขโมยหัวใจของสาวๆ ในทุกที่ที่เขาไปจริงๆ ตอนโอปป้ากำลังกิน ฉันไม่ได้หันไปดู เพียงแค่แค่ฟังเสียงเขากินเท่านั้น เสียงส้อมกับตะเกียบดังคริ๊กแคร้งไปมา พระเจ้า…ฉันอิ่มก่อนที่จะได้กินอะไรจริงๆ เสียอีก แต่โอปป้าไม่ได้สั่งของหวานตาม หลังจากทานอาหารเย็นแล้ว โอปป้าก็หยิบไอเพ็ดมาเล่น ผู้จัดการก็ชำเลืองมามองเป็นระยะๆ ว่าโอปป้าเล่นอะไร ส่วนตัวฉัน ก็แอบเตรียมอะไรเซอร์ไพรส์ๆ ไว้แล้วล่ะ อิอิ ^^

ตอนที่กัปตันประกาศว่าเหลืออีก 15 นาทีก่อนเครื่องจะลง ฉันหันหลังไปและแอบมองที่ไอแพ็ดของฮยอนจุง และถามผู้จัดการเขาว่าฉันขอลายเซ็นหน่อยได้ไหม ผู้จัดการเขาโอเคและหยิบอัลบั้มไปและถามฉันว่าอยากให้เซ็นหน้าไหน ฉันจึงเลือกหน้าที่ฉันชอบมากที่สุด หลังจากที่คุณผู้จัดการเช็คว่าปากกาของฉันเขียนได้ไหม เขาก็บอกโอปป้าที่นั่งอยู่ข้างๆ (โอปป้าใส่หูฟังตลอดเวลาแม้กระทั่งตอนนอน) และบอกเขาว่าฉันเป็นแฟนชาวจีนและอยากได้ลายเซ็นของเขา โอปป้ามองมาที่ฉัน เขายิ้มและผงกศีรษะให้ เขาคว้าอัลบั้มไปและเซ็นชื่อตัวเองก่อน จากนั้นจึงค่อยเขียนว่า To…เขาถามฉันว่าเขียนเป็นภาษาอังกฤษได้ไหม ฉันบอกเขาว่าอยากได้คำว่า To เป็นภาษาจีน โอปป้าพยักหน้า ขมวดคิ้วและหน้าผากเข้ามาเล็กน้อยก่อนจะเขียนว่า百度 อย่างขะมักขะเม้น ตามด้วยชื่อของเขาเป็นภาษาจีนอย่างรวดเร็วว่า金贤重 โอปป้าคิ้วขมวดอีกครั้ง ขณะเขียนคำว่า เป็นอันเสร็จกระบวนการลายเซ็นระหว่างเส้นทางสายเซินเจิ้นของฉัน! ฉันคิดว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดในทริปนี้และตัวเองโชคดีที่สุด แต่เดี๋ยว ยังไม่หมดแค่นี้นะคะ…

เมื่อเครื่องบินลงจอดอย่างปลอดภัย ขณะกำลังรอลงจากเครื่อง โอปป้าก็เดินมารอที่ตรงทางเดินแล้ว (ข้างๆ ฉัน เพราะฉันนั่งอยู่แถวหน้า) และเดาสิว่าเขากำลังทำอะไร…ฮีกำลังเต้นอยู่! โอปป้าอ่ะ นี่เธอจะให้ฉันหัวใจวายตายใช่ไหมเนี่ย เขาอยู่ห่างจากฉันไม่ถึง 10 เมตรและกำลังเต้นอยู่ ฉันตื่นเต้นมากๆ และเพื่อไม่ให้ตัวเองหัวใจวายไปเสียก่อน ฉันจะเลื่อนไปนั่งตรงเบาะติดริมหน้าต่างแทน เราจะได้รักษาระยะห่างที่ปลอดภัยกันไว้ได้ (คนแปล: ฮาอ่ะ คนเขียนน่ารักจัง) แต่ไม่เพียงแค่นั้น รถที่จะมารับเราที่เครื่องยังไม่มา ส่วนโอปป้าก็อาจจะรู้สึกตื่นเต้นที่จะต้องออกไปข้างนอกแล้ว คุณบอดี้การ์ดรูปหล่อก็ก้มตัวลงแถมเอาหน้าใหญ่ๆ มาใกล้ฉัน (คือ หน้าใหญ่อ่ะเมื่อเปรียบเทียบกับหน้าของโอปป้า) เพื่อชะโงกไปดูข้างนอก แต่เขาไม่ได้ระวัง หัวก็เลยไปชนกับขอบประตูเสียงดังมาก โอ้ยย…ไม่รู้ว่าพี่บอดี้การ์ดพูดอะไรกับโอปป้า แต่ฮยอนจุงก้มตัวลงมาด้านหน้าฉันทันทีและมองออกไปข้างนอก ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าตอนนั้นรู้สึกอย่างไร หรือตัวเองมีปฏิกริยาอย่างไร แต่รู้แต่เพียงว่าฉันแทบคลั่ง ฉันไม่รู้ว่ตัวเองเอาหัวหลบยังไงด้วย โอปป้าก็ยังแอบมองไปข้างนอกอยู่ ส่วนตัวฉันก็เพ้อไปเลยล่ะ ฉันมีความสุขมากและรู้สึกว่าถ้าตายตอนนี้ก็คงไม่เสียใจ ในที่สุดรถของเราก็มาถึง ฉันได้ยินแอร์ถามโอปป้าคณะของเขามีกันกี่คน ฉันเข้าใจว่าพวกเขาจะไปกับเราด้วย ฉะนั้นตอนที่ฉันเดินไปยังฝั่งที่นั่งชั้นประหยัดเพื่อลงจากเครื่อง คุณแอร์ก็เรียกให้ฉันไปนั่งรถคันเดียวกับโอปป้า (สเตฟานี คนแปลเป็นภาษาอังกฤษ: คนเขียนไม่ได้ขอนะคะ)

มันเป็นรถรับส่งทั่วๆ ไป โอปป้านั่งที่นั่งด้านหน้า ตรงที่พนักงานตรวจตั๋วเขานั่งกัน ฉันขึ้นรถไปด้วยอาการสงบนิ่งเดินผ่านหน้าโอปป้าไป และไปนั่งด้านหลังเขา ฉันแอบมองบัตรตรวจคนเข้าเมืองของคุณบอดี้การ์ดรูปหล่อ หมายเลข 190830825 จริงๆ โอปป้านั่งฟังเพลงไประหว่างมองออกไปนอกหน้าตา สำหรับฉัน ฉันได้แต่มองผิวหน้าสุดเพอร์เฟกต์ของโอปป้า (คนแปล: แน่นอน ฮีใช้เดอะเฟซช้อปนิ อิอิ) ผิวเนียนมากๆ ฉันเป็นผู้หญิงยังอิจฉาเลย ระหว่างนั่งรถไป โอปป้าทำอะไรบางอย่างที่ฉันแทบจะต้องกัดลิ้นตายไปตรงนั้น เขาเริ่มร้องเพลงอ่ะ ฮัมเพลงเบาๆ และฉันก็ได้ยินอย่างชัดเจนด้วย โอปป้า นี่เพลงใหม่หรือเปล่าคะ ก่อนที่ Break Down จะเปิดตัว ฉันโชคดีมากที่ได้เห็นการแสดงบนเวทีของเพลงนี้ก่อนแต่ตอนนั้นฉันไม่รู้ว่าเป็นเพลง Break Down ฉันเข้าใจว่าโอปป้ากำลังเต้นเพลงของคนอื่นอยู่ แต่ตอนนี้ เพลงนี้…ใช่หรือเปล่า…โอย ฉันจะบ้า!

เมื่อรถเรามาถึง ก่อนที่เราจะลง เราเห็นว่าหลายๆ คน (น่าจะหมายถึงคนที่อยู่บนรถ) กำลังถ่ายรูปฮยอนจุง คุณบอดี้การ์ดดูไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไหร่และพูดว่า ทำไมหลายคนถึงถ่ายรูปกันเนี่ย ฉันเดินตามหลังโอปป้าเพื่อลงจากรถ หลายคนก็ยังถ่ายรูปโอปป้าอยู่ บางคนก็มาขอหลายเซ็นแต่โดนปฏิเสธ ตอนเรามาถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง มีคนมาดักรอโอปป้า แต่เขาโชคดีได้ลายเซ็นโอปป้าไปด้วย หลังจากตรวจเสร็จ พนักงานก็ชี้ทางให้คุณบิดี้การ์ดรูปหล่อไปอีกช่องตรวจนึง ไม่เข้าใจทั้งจีนทั้งอังกฤษ แต่บอดี้การ์ดรูปหล่อก็ใจดีแปลให้~

ฉันไปเข้าคิวตรวจหลังโอปป้า ดูเหมือนว่าโอปป้าจะกรอกฟอร์มเข้าเมืองไม่เรียบร้อย (คนแปล: สมเป็น 4d จริงๆ) พนักงานเลยถามโอปป้าว่าพูดจีนได้ไหม ถามเป็นภาษาอังกฤษ โอปป้าตอบว่าไม่ได้เป็นภาษาอังกฤษ ฮ่าฮ่า ฉันแอบสังเกตขนตาโอปป้าด้วย ยาวจริงๆ…

หลังจากตรวจเช็คเสร็จ ก็มีหลายคนยังถ่ายรูปอยู่ พนักงานผู้หญิงใส่ฟอร์มเดินทางบอกว่าห้ามถ่ายรูป คนพวกนั้นก็บอกว่าพวกเขาเป็นญาตของพนักงาน! แม้ฉันจะเข้าใจความรู้สึกของแฟนๆ แต่การกระทำแบบนี้ก็น่าอายเล็กน้อยนะ จะทำให้โอปป้าเข้าใจว่าด่านตรวจคนเข้าเมืองของจีนไม่ดี…ทุกคนคะ โปรดช่วยกันทำให้โอปป้ามีความรู้สึกดีๆ ต่อประเทศจีนด้วยค่ะ ^^

ขณะที่เรากำลังออกจากสนามบิน โอปป้าก็หลงทางอีกครั้ง เขาเดินไปผิดทาง ฉันแอบกลัวเล็กน้อยว่าโอปป้าอาจจะใช้ทางออกอีกทางหนึ่ง แต่โชคดีที่ท้ายที่สุดเขาก็หาทางออกเจอ เรื่องต่อจากนี้ฉันคงไม่เล่าอะไรมากแล้ว พวกคุณคงจะได้เห็นจาก fancam แล้วก็รูปถ่ายที่แฟนๆ ถ่ายไปแล้วล่ะ


-จบ-



.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น